1.Cuisine de Garden
เป็นร้านอาหารขึ้นชื่อของ เชฟแนน ลีลวัฒน์ มั่นคงติพันธ์ เปิดมาตั้งแต่ ปี 2011 เป็นความสำเร็จของเชฟแนนและยังมีการเปิดสาขาที่ กรุงเทพฯ ในปี 2017 อีกด้วย ซึ่งได้รับรางวัล Michelin Plate สำหรับ Michelin Guide Thailand 2019 เราได้รับประสบการณ์ของการทานอาหาร ที่เป็นมากกว่าอาหาร ด้วยการเล่าเรื่องราวจากธรรมชาติ ผสมผสานศิลปะการทำอาหารลงบนจานทุกจาน อย่างละเอียดอ่อน
อาหารของที่นี่ จะเสิร์ฟเป็น Course Menu ให้ได้รับประทาน มีทั้ง Course Menu กลางวัน ประกอบด้วย 12 เมนู ราคา 1,299 บาท ส่วน Course Menu ช่วงเย็น จะมี 15 เมนู ราคา 1,599 บาท โดยแต่ละเมนูที่รังสรรค์นั้น จะใส่เรื่องราวที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติและชุมชนต่างๆของไทยตามแบบฉบับการทำอาหารแบบ Innovative Cuisine ทำให้ได้ซึมซับรสชาติ และอารมณ์ของแต่ละจาน ได้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
เวลาเปิด-ปิด :: เปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 12:00 - 15:00 น. และ 18:00 - 22:00 น.
เบอร์ติดต่อ :: 081-774-1479
2.Rustic and Blue - Farm Shop
ร้านอาหารในซอยนิมมาน 7 ที่นี่เริ่มต้นจากการเป็นร้านขายชาแบบไม่มีคาแฟอื่นมาก่อนค่ะ จากนั้นก็มาเปิดเป็นร้านอาหาร บรรยากาศภายในร้านอบอุ่น เมนูของร้านเป็นเมนูอาหารเช้า และมีเมนูทางเลือกสำหรับใครที่ไม่ทานเนื้อสัตว์ โดยวัตถุดิบหลักในการทำอาหาร
อาหารโฮมเมดสไตล์ฝรั่ง พร้อมให้คุณนั่งจิบชาหอมๆ จากทั่วโลก เน้นอาหารเพื่อสุขภาพ เสิร์ฟเมนูออแกนิคที่ทางร้านสร้างสรรค์อย่างใส่ใจ ทั้งการเลือกวัตถุดิบ ส่วนผสม และการปรุง
ร้านเปิด - ปิดให้บริการ : อังคาร - ศุกร์ 08.30 น - 21.00 น เสาร์ - อาทิตย์ 08.30 น - 22.00 น ปิดทุกวันจันทร์ ที่ตั้งร้านนิมมานเหมินทร์ ซอย 73.Ni-yom Homemade
ฝากท้องกับตำราอาหารไทยที่ส่งกันรุ่นสู่รุ่นบรรยากาศจะล้อมรอบด้วยต้นไม้และสนามหญ้าสีเขียวบวกกับแสงไฟสีเหลืองอ่อน ๆ ภายในร้าน เพิ่มอรรถรสในการชมวิวและทานอาหาร
เมนูอาหารไทยของร้านอาหารนิยมนั้น เป็นการนำเอาเมนูเก่ามาเล่าใหม่ กับสูตรต้นตำรับที่ได้ส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น อย่างน้ำพริกกะปิ ปลาทูทอด ปลาย่าง หรือไข่พะโล้ ที่เป็นอาหารจานคลาสสิคที่ทานกันได้ง่ายๆ ทางร้านก็ได้พิถีพิถันตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบ รวมถึงวิธีการปรุงรส และนำเสนอภาพลักษณ์ที่เข้ากับยุคสมัยใหม่มากขึ้น ทำให้ได้ลิ้มรสชาติสำรับอาหารที่คุ้นเคยในแบบไทยๆ ท่ามกลางบรรยากาศอันอบอุ่น
เวลาเปิด-ปิด: ปิดทุกวันจันทร์ เปิดตั้งแต่ 11.30 - 20.30 น.4.ปูอลาสก้าเชียงดาว - King Crab Chiang Dao
มาเชียงดาวทั้งทีไม่มาร้านนี้พลาดมาก วัตถุดิบนำเข้าจากยุโรปเป็นร้านที่มีกว่า 300 เมนูแต่นี่ทุกเมนูสามารถเลือกวัตถุดิบนำเข้าที่มีทั้งปูอลาสก้า ปูขน กุ้งล๊อบสเตอร์ตัวใหญ่มาก กุ้งโมซัมบิก และปลาทามาอิ ที่มาจากอเมริกา และแปซิฟิก
พิกัด : ปูอลาสก้าเชียงดาว Thai grill ประเสริฐทองวิลล์ออกจากเชียงใหม่ (ถนน 107) มาทางแม่ริม ขับชิวๆยาวๆ เลี้ยวรถมาใช้ถนนเส้น 1359 ก็ทางไปตัวอำเภอเชียงดาวนี่ล่ะ โทรจอง : 053 046 959 เวลาเปิดปิด :10:00 – 22:005.Lam Ner – ลำเน้อ
ถ้าหนึ่งในเมนูอาหารเหนือที่เมื่อมาถึงเชียงใหม่แล้วไม่ได้กินจะเหมือนมาไม่ถึงก็คือ “ข้าวซอย” วันนี้ขอนำเสนอ ร้าน ลำเน้อ ข้าวซอย น้ำเงี้ยว นอกจากข้าวซอยไก่ เนื้อนุ่มๆแล้ว ก็ยังมีน้ำเงี้ยว ทีเด็ดของร้านนี้คือข้าวซอยน้ำแกงเข้มข้นหอมเครื่องเทศ เส้นข้าวซอยทำเอง พริกแกงตำเอง ใส่เครื่องเทศหายากอย่างจันชโกทำให้ได้กลิ่นที่แปลกกว่าข้าวซอยร้านอื่น นอกจากข้าวซอยที่ขึ้นชื่อแล้ว ทางร้านได้มีเมนูอาหารที่เป็น Couse สไตล์ chef table อีกด้วย ร้านนี้มีความแตกต่างที่เคยทานมาเด็ดขนาดนี้ห้ามพลาด
โครงการจริงใจมาร์เก็ต ซอย ป่าตัน ตำบลช้างเผือก เมือง เชียงใหม่ 50300
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันตั้งแต่ 10.30 - 20.30 น.
เป็นยังไงบ้างครับ กับ 5 พิกัดร้านดังที่เชียงใหม่ เห็นอย่างนี้ไม่รีบไปเช็คอินไม่ได้ซะแล้ว ยิ่งตอนนี้เค้าไม่ให้ออกนอกประเทศ เราก็มาฟินในประเทศของเรากันได้นะครับ สุดท้ายนี้แอดมินก็อดเป็นห่วงไม่ได้กับสถานการ์ณโรคโควิช-19 ที่กำลังระบาดอยู่ตอนนี้ ท่านที่จะไปเที่ยวที่ไหนก็ดูแลตัวเองนะครับ อย่าลืมปิดแมส และล้างมือให้เป็นนิสัยนะครับ หรือท่านพกเจลแอลกอฮอลล์ล้างมือติดตัวไว้ตลอดก็จะดีมากนะครับ ด้วยรักและเป็นห่วง มาก มาก จาก พี่ เอ็ม.พี. จ้า