สวัสดีครับ พูดถึงประเทศไทยนั้นเป็นประเทศแห่งความอุดมสมบูรณ์ ทั้งในเรื่องของธรรมชาติ ภูเขา ทะเล ป่าไม้ วัฒนธรรม และที่สำคัญ เป็นประเทศที่มีอาหารให้เลือกทานเยอะที่สุดก็ว่ากันได้นะครับ วันนี้แอดมินจะมาพาแฟนๆที่น่ารักไปชมกับสุดยอดร้านอาหารชื่อดัง ระดับ Michelin ติดดาว สักครั้งเราต้องไปลิ้มลองกันไปชมกันเลยครับ
1.ร้าน J'AIME by Jean-Michel Lorain โรงแรม ยู สาทร กรุงเทพฯ
"ร้านอาหารฝรั่งเศส ระดับมิชลิน 1 ดาว ที่ตกแต่งไม่เหมือนใครในสไตล์ ที่จัดวางเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งสลับจากล่างขึ้นบนและจากบนลงล่าง บรรยากาศภายในมีความเรียบหรู และดูแพง ถอดแบบการบริการและอาหารมาจากฝรั่งเศสแท้ ๆ โดยมีเชฟใหญ่ประจำร้านคือ Amerigo Sesti ชาวอิตาเลียน ใครที่มีโอกาสมาที่ร้านต้องไม่พลาด Ocean Oyster Terrine เมนูที่เป็นซิกเนเจอร์ท่ีสืบทอดสูตรกันมายาวนาน
2. ร้าน Sra Bua by Kiin Kiin โรงแรมสยาม เคมปินสกี้
ร้านอาหารไทยระดับ 1 ดาวมิชลินที่อยากแนะนำ ภายในตกแต่งได้อย่างสวยงามสไตล์ไทยร่วมสมัยและมีสระบัวที่เป็นสัญลักษณ์อยู่กลางร้าน และเซตเมนูที่มีเฉพาะมื้อเย็น ขอแนะนำเป็นจานเด่นของร้านอย่าง แกงแดงเย็นกับกุ้งมังกร มาพร้อมโฟมลิ้นจี่สอดไส้ด้วยแกงแดงด้านใน พร้อมรองจานด้านล่างด้วยไนโตรเจนเหลว ก่อนที่จะราดลงมาเพิ่มควันให้ดูน่าตื่นตาตื่นใจเวลาเสิร์ฟ รสชาติเยี่ยมมาก
3.ร้าน Le Normandie แมนดารินโอเรียนเต็ล
ร้านอาหารฝรั่งเศสริมน้ำ บรรยากาศภายในถูกตกแต่งด้วยโทนสีขาวสว่าง ให้ความรู้สึกหรูหรา และอบอุ่นในสไตล์คลาสสิก พื้นที่อาจไม่ใหญ่มาก แต่มีความเป็นส่วนตัว ไฮไลต์ที่ของร้านอยู่ที่โซนที่นั่งติดกระจกซึ่งสามารถมองเห็นวิวสวย ๆ ของแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างชัดเจน ด้านอาหารเชฟจะแนะนำเมนู สลัดควินัวซึ่งเป็นเมล็ดธัญพืชที่มีสารอาหารสูง เหมาะกับคนรักสุขภาพ พร้อมด้วยเนื้อกุ้ง และปูสด ๆ ร้านนี้จุดเด่นคือใช้วัตถุดิบดี ใส่ใจในการบริการลูกค้า และบรรยากาศดีคุ้มราคา การันตีด้วย 2 ดาวระดับมิชลิน
4.ร้าน nahm โรงแรมโคโม เมโทรโพลิแทน กรุงเทพฯ
บรรยากาศภายในร้านถูกตกแต่งอย่างเรียบหรูโดยได้รับแรงบันดาลใจจากสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่เลือกใช้อิฐบล็อคศิลาแลงตัดกับผนังสีทอง บริเวณพื้นเลือกใช้เป็นไม้สัก และเบาะที่นั่งที่ทำจากผ้าไหมไทยโทนสีธรรมชาติ เมนูกับข้าวแนะนำให้สั่งแกงสูตรดั้งเดิม แกงพะแนงเนื้อ แกงพะแนงเนื้อสูตรต้นตำรับที่เลือกใช้เนื้อนุ่ม ๆ ส่วนซี่โครง นำไปตุ๋นจนได้ที่ เครื่องแกงเข้มข้น หอมกลิ่นลูกจันทน์อ่อน ๆ และใบโหระพา ด้านบนโรยด้วยถั่วลิสง รสชาติเข้มข้นกำลังดี เมนูของหวานไทยโบราณอย่าง ขนมเบื้องหวานลูกพลับเชื่อม ขนมเบื้องชิ้นกำลังดีที่ท็อปด้านบนด้วยลูกพลับเชื่อมก่อนวางด้วยฝอยทอง เสิร์ฟมาพร้อมทองเอก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมจึงรางวัล 1 ดาว จากมิชลิน ไกด์"
5. ร้าน Elements The Okura Prestige Bangkok
ห้องอาหาร สไตล์ฝรั่งเศสที่มีกลิ่นอายญี่ปุ่นที่การันตีคุณภาพโดย 1 ดาวมิชลิน ตั้งอยู่บนชั้น 25 ของโรงแรม The Okura Prestige Bangkok บรรยากาศของห้องอาหารเน้นโทนสีน้ำตาลและดำ เรียบง่ายแต่ยังคงความหรูหรา เพิ่มลูกเล่นการตกแต่งด้วยไม้ถ่านรอบร้าน จุดเด่นคือครัวเปิดและโซน Chef's Table หรือใครอยากส่วนตัวหน่อยก็ปลี่ยนบรรยากาศนั่งรับประทานอาหารด้านนอกในสไตล์เทอเรส
6. ร้าน Bo.lan
ร้านอาหารไทยพรีเมียม ในซอยสุขุมวิท 53 ที่ได้การันตีรางวัลด้วย 1 ดาวมิชลิน ร้านเป็นแบบโมเดิร์นแต่ตบแต่งด้วยเฟอร์นิเจอบางส่วนที่ให้อารมณ์แบบไทย ๆ พื้นบ้าน เป็นร้านชั้นเดียวขนาดกลาง มีที่นั่งทั้งในห้องแอร์และด้านนอก บรรยากาศแบบบ้านที่ดัดแปลงให้เป็นร้านอาหารแต่ออกมาสวยเก๋ดูทันสมัยแต่ก็เข้ากันดีกับสระเบาเล็ก ๆ เป็นทางยาว อาหารจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ใช้วัตถุดิบที่ค่อนข้างพื้นบ้าน หาได้ยาก และมักมีตามฤดูกาล เมนูแนะนำของที่นี่คือ ฉู่ฉี่ปลาทู, ยำกุ้ง หรือปลาหมึกผัดฉ่า เป็นต้น
7. ร้าน Ginza Sushi Ichi
ร้านตั้งอยู่ในตึกเอราวัณที่ไม่พลุกพล่าน แต่เมื่อเข้าไปในร้านจะพบกับกองทัพเชฟชาวญี่ปุ่นที่ทุกคนล้วนผ่านการเทรนด์มาจากญี่ปุ่นเเละถ้าใครโชคดีไปกว่านั้น อาจจะได้ทานดินเนอร์สุดพิเศษโดยเชฟใหญ่ Masakazu Ishibashi มาสเตอร์ซูชิผู้ที่มีประสบการณ์การทำซูชิมายาวนาน สาขาต้นตำรับอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ความอร่อยพิถีพิถันของร้านนี้เป็นที่เลื่องลือจนได้ดาวมิชลินหนึ่งดวงมาครอง บรรยากาศในร้านมีความเป็นญี่ปุ่นอย่างชัดเจนตั้งเเต่หน้าร้าน ฉากสีขาวเเละไม้สีอ่อนเป็นส่วนประกอบหลักของร้านที่เเบ่งสัดส่วนออกเป็น 2 ซูชิบาร์เเละห้องส่วนตัวสำหรับใครที่มาคุยธุรกิจ เมนูแนะนำของร้านนี้หนีไม่พ้น Hokkaido Taraba Crab ส่วนซูชิของที่นี่รับรองว่าพิเศษไม่เหมือนร้านไหน"
8. ร้าน L'Atelier de Joel Robuchon คิวบ์ ไลฟ์สไตล์ รีเทล เซ็นเตอร์
ร้านอยู่ชั้น 5 ของตึกมหานครคิวบ์ เป็นอีกหนึ่งร้านที่ได้รับ 1 ดาวมิชลิน การตกแต่งภายในร้านคุมโทนด้วยการใช้แสงสีแดงตัดกับเฟอร์นิเจอร์สีดำเพื่อสร้างความรู้สึกแบบเลานจ์ รวมไปถึงเคาท์เตอร์สูงที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากทาปาสบาร์แบบญี่ปุ่นที่มองเห็นครัวแบบเปิด เพื่อชมศิลปะในการปรุงอาหารของเชฟ ที่ร้านสาขากรุงเทพ ฯ นี้มีเชฟ Olivier Limousin ที่เคยร่วมงานกับร้านอาหารชั้นนำที่ทั้งลอนดอนและปารีสมาแล้ว เพราะฉะนั้นมั่นใจในรสชาติว่าไม่เป็นรองกับที่อื่น ๆ แน่นอน เมนูที่นี้ขอแนะนำให้ลอง Hokkaido scallop served with seaweed butter and lemon juice (หอยเชลล์จากฮอกไกโดเสิร์ฟคู่กับเนยสาหร่ายและน้ำมะนาว) เป็นเมนูที่ห้ามพลาดเลยทีเดียว"
9. ร้าน Gaggan
ร้านอาหารอินเดียที่นำเอาเทคนิคทาง Molecular Gastronomy มาใช้ หรือที่เรียกว่าเป็น Progressive Indian Cuisine แล้วล่ะก็ นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก Gaggan ของเชฟ Gaggan Anand อย่างแน่นอน ด้วยรางวัลดาวมิชลิน 2 ดาวตามมาด้วยดีกรีอันดับ 10 ของ World’s 50 Best Restaurants Rankings ของปี 2015 นี้ พ่วงด้วยตำแหน่ง Thailand’s Best Restaurant และ Asia’s Best Restaurant ทำให้คิวจองโต๊ะของร้านยาวเหยียดถึงขนาดต้องจองล่วงหน้ากัน 1 - 2 เดือนเลยทีเดียว สำหรับเมนูของทางร้านจะให้สั่งเป็นเซ็ตซึ่งมีให้เลือก 2 เซ็ตด้วยกัน ได้แก่ Taste of Gaggan และ Best of Gaggan
10. ร้าน Mezzaluna
ร้านที่อยู่ที่โรงแรมเลอบัวหรือ เป็นที่รู้จักกันคือ The dome at state tower ตึก ที่สูงๆพร้อมมีโดมสีเหลืองทองอยู่ข้างบน ได้รับรางวัล 2 ดาวมิชลิน เป็นห้องอาหารอิตาเลียนชั้นเยี่ยมที่ได้รับการดีไซน์ให้คล้ายกับพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวสามารถมองเห็นวิวของกรุงเทพมหานครแบบพาโนรามา 360 องศา ที่จะขาดเสียมิได้ก็คือความอร่อยของอาหารที่จะเสิร์ฟไปทีละคอร์ส เริ่มจากอาหารเรียกน้ำย่อยไล่ไปเรื่อย ๆ จนมาถึงของหวานที่เสิร์ฟพร้อมกับเหล้าองุ่นชั้นดี รสหวานฉ่ำ แล้วความสุขจะไปไหนเสีย"
ว้าวน้ำลายไหลมาเป็นทาง กับสุดยอดมิชลินที่แอดมินได้แนะนำกันไปแล้วใช่ไหมครับ สถานการณ์ปกติเมื่อไหร่ ต้องพลาดไม่ได้กับการลองชิม สุดท้ายนี้แอดมินก็ยังเป็นห่วงสุขภาพทุกท่านนะครับ กินร้อน ช้อนของเรา ล้างมือด้วยสบู่ ฆ่าศัครูได้แน่นอน แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้านะครับ สวัสดีครับ
ขอบคุณข้อมูลน่ารู้จาก Wongnai